งบประมาณค่าออกแบบภายในถือเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบอาหาร สถานที่ การเข้าใจวิธีการคิดค่าออกแบบตกแต่งภายในจะช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณได้อย่างเหมาะสม และเลือกนักออกแบบหรือบริษัทที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณได้ บทความนี้จะชวนคุณไปทำความเข้าใจกันว่าค่าออกแบบภายใน คิดยังไง
ค่าออกแบบภายใน คิดยังไง คำนวณจากอะไร
ค่าออกแบบภายในจะคำนวณจากหลายปัจจัยประกอบกัน เริ่มจากขนาดพื้นที่โครงการ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด ยิ่งพื้นที่มากยิ่งต้องใช้เวลาในการออกแบบและจัดทำรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ ความซับซ้อนของงานก็มีผลต่อราคา โครงการที่มีรายละเอียดมาก งานที่ต้องการดีไซน์พิเศษจะมีค่าออกแบบตกแต่งภายในที่สูงกว่าโครงการทั่วไป นอกจากนี้ ระยะเวลาในการดำเนินโครงการและจำนวนครั้งของการแก้ไขแบบก็เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการคำนวณค่าออกแบบภายในเช่นกัน โครงการที่ต้องการความรวดเร็วอาจต้องจ่ายในอัตราที่สูงขึ้น
ค่าออกแบบตกแต่งภายในมีอะไรบ้าง

เมื่อพูดถึงค่าออกแบบภายใน หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงค่าวาดแบบหรือค่าสร้างแบบจำลองเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ค่าออกแบบตกแต่งภายในครอบคลุมบริการหลายอย่างที่จำเป็นต่อการพัฒนาแนวคิดการออกแบบไปจนถึงการดูแลการก่อสร้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ออกแบบไว้ มาดูกันว่าค่าออกแบบตกแต่งภายในประกอบด้วยอะไรบ้าง
ค่าออกแบบตกแต่งภายใน (Interior Design)
ค่าออกแบบตกแต่งภายใน คือ ค่าบริการหลักที่ต้องจ่ายให้กับนักออกแบบหรือบริษัทออกแบบ เพื่อสร้างสรรค์คอนเซปต์และรายละเอียดของการตกแต่งพื้นที่ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์พื้นที่และความต้องการของลูกค้า การนำเสนอแนวคิดการออกแบบ การเลือกโทนสี วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และองค์ประกอบตกแต่งอื่น ๆ รวมถึงการกำหนดรายละเอียดการติดตั้งและการตกแต่ง
ค่าออกแบบงานระบบ M&E
ค่าออกแบบงานระบบ M&E (Mechanical and Electrical) เป็นค่าบริการที่แยกออกมาจากค่าออกแบบตกแต่งภายในทั่วไป เนื่องจากเป็นงานเฉพาะทางที่ต้องอาศัยความรู้และความชำนาญพิเศษ งานระบบ M&E ครอบคลุมการออกแบบระบบไฟฟ้า ระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบเสียง ซึ่งต้องออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดการตกแต่งภายใน และต้องเป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ค่าออกแบบภายในในส่วนของงานระบบ M&E มักจะคิดแยกต่างหากจากค่าออกแบบตกแต่งภายในพื้นฐาน โดยอาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่างานระบบหรือคิดตามพื้นที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและขนาดของโครงการ บางบริษัทอาจรวมค่าออกแบบงานระบบเข้าไปในแพ็กเกจค่าออกแบบรวม แต่บางบริษัทอาจว่าจ้างวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและคิดค่าบริการเพิ่มเติม
ค่าออกแบบภายใน คิดยังไงบ้าง

ค่าออกแบบภายในสามารถคิดได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทและลักษณะของโครงการ การเข้าใจวิธีการคิดค่าออกแบบแต่ละแบบจะช่วยให้คุณเปรียบเทียบและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับโครงการและงบประมาณของคุณ บางบริษัทมีวิธีคิดค่าออกแบบภายในแบบเดียว ในขณะที่บางบริษัทอาจมีทางเลือกหลายรูปแบบให้ลูกค้าพิจารณาหลายแบบ มาดูกันว่าค่าออกแบบภายใน คิดยังไง
อัตราร้อยละ (Percentage of Project)
การคิดค่าออกแบบภายในแบบอัตราร้อยละเป็นวิธีที่นิยมในวงการออกแบบตกแต่งภายใน วิธีนี้คำนวณค่าออกแบบเป็นเปอร์เซ็นต์ของงบประมาณการก่อสร้างหรือตกแต่งทั้งหมด โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10-20% ของมูลค่าโครงการ ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อน
ข้อดีของการคิดค่าออกแบบภายในแบบอัตราร้อยละคือ ลูกค้าสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างชัดเจน เนื่องจากตั้งงบประมาณการก่อสร้างไว้ล่วงหน้า และนักออกแบบจะต้องออกแบบภายในงบที่กำหนด หากลูกค้ามีวัสดุหรืออุปกรณ์บางส่วนอยู่แล้ว สามารถแจ้งให้นักออกแบบทราบ เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบและหักออกจากงบประมาณรวม วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด
ปริมาณพื้นที่ (Built Area)
การคิดค่าออกแบบภายในตามปริมาณพื้นที่เป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย โดยคิดค่าออกแบบเป็นราคาต่อตารางเมตร คูณกับขนาดพื้นที่ทั้งหมดที่จะทำการออกแบบ อัตราค่าออกแบบต่อตารางเมตรจะแตกต่างกันไปตามประเภทของพื้นที่และความซับซ้อนของการใช้งาน
คำนวณเวลาทำงาน (Time Charge Rate)
การคิดค่าออกแบบภายในตามเวลาทำงานเป็นวิธีการคำนวณที่มีความยืดหยุ่นและสะท้อนปริมาณงานที่แท้จริง วิธีนี้คำนวณค่าออกแบบจากจำนวนชั่วโมงทำงานของทีมออกแบบทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยนักออกแบบหลัก นักออกแบบผู้ช่วย วิศวกร และบุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ละคนจะมีอัตราค่าตัวต่อชั่วโมงที่แตกต่างกันตามระดับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์
ข้อดีของการคิดค่าออกแบบภายในด้วยการคำนวณเวลาทำงาน ลูกค้าสามารถจ่ายค่าจ้างตามปริมาณงานทำ หากโครงการมีความซับซ้อนและต้องการการแก้ไขหลายครั้ง ค่าออกแบบก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ในทางกลับกัน หากโครงการไม่ซับซ้อนและตัดสินใจได้รวดเร็ว ค่าออกแบบก็จะน้อยลง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจทำให้ลูกค้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิด ดังนั้น บางบริษัทจึงอาจกำหนดชั่วโมงทำงานและค่าใช้จ่ายสูงสุดเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะไม่เกินงบที่วางไว้
เหมาจ่าย (Lump Sum)
การคิดค่าออกแบบภายในด้วยวิธีเหมาจ่ายเป็นวิธีที่ชัดเจน และง่ายต่อการบริหารจัดการทั้งสำหรับลูกค้าและนักออกแบบ วิธีนี้กำหนดค่าออกแบบเป็นจำนวนเงินรวมทั้งหมดสำหรับขอบเขตงานที่ได้ตกลงกันไว้ โดยพิจารณาจากระยะเวลาทำงานโดยประมาณ ความซับซ้อนของงาน รูปแบบดีไซน์ และสไตล์การออกแบบประกอบเข้าด้วยกัน
สำหรับข้อดีของการคิดค่าออกแบบภายในแบบเหมาจ่ายคือ ลูกค้าทราบงบประมาณที่แน่นอนตั้งแต่ต้น แม้ว่าในระหว่างการทำงานจะมีความยุ่งยากหรือความซับซ้อนเพิ่มเติม นักออกแบบจะไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตงานที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าต้องการขยายขอบเขตงานหรือมีบริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ตกลงไว้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นกรณีไป
การจ่ายค่าออกแบบภายใน

การจ่ายค่าออกแบบภายในมักจะแบ่งเป็นงวดเพื่อกระจายภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าและให้นักออกแบบมีเงินทุนหมุนเวียนในการทำงาน การจ่ายเงินเป็นงวดยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งสองฝ่าย โดยลูกค้าจะได้เห็นความคืบหน้าของงานก่อนจ่ายเงินงวดถัดไป และนักออกแบบก็มั่นใจว่าจะได้รับค่าตอบแทนตามผลงานที่ส่งมอบ โดยทั่วไป การจ่ายค่าออกแบบภายในมักแบ่งเป็น 5 งวด
- งวดที่ 1 : 40% จ่ายในวันที่เซ็นสัญญาว่าจ้าง เป็นการยืนยันข้อตกลงและเริ่มกระบวนการออกแบบ เงินงวดนี้จะช่วยให้นักออกแบบมีเงินทุนในการเริ่มต้นโครงการ
- งวดที่ 2 : 30% จ่ายเมื่องานมีความคืบหน้าประมาณ 50-60% ซึ่งในขั้นตอนนี้ ลูกค้าจะเริ่มเห็นงานออกแบบเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน มีการเริ่มติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินในบางส่วน และงานระบบต่าง ๆ กำลังดำเนินการ
- งวดที่ 3 : 20% จ่ายหลังจากติดตั้งเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งครบทั้งหมดตามแบบที่กำหนด ในขั้นตอนนี้ งานส่วนใหญ่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงงานเก็บรายละเอียดและทำความสะอาด
- งวดที่ 4 : 5% จ่ายหลังจากเก็บรายละเอียดงานและทำความสะอาดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนนี้ งานทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์และพร้อมใช้งาน แต่ยังไม่ได้มีการส่งมอบงานอย่างเป็นทางการ
- งวดที่ 5 : 5% จ่ายเมื่อมีการส่งมอบงานและตรวจรับงานอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นงวดสุดท้ายที่ถือว่าโครงการเสร็จสมบูรณ์ทุกประการ และลูกค้ายอมรับผลงานแล้ว
สรุป
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนคงเข้าใจแล้วว่าค่าออกแบบภายใน คิดยังไง การเข้าใจวิธีคิดค่าออกแบบภายในจะช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณและเลือกบริษัทออกแบบที่เหมาะสมกับโครงการของคุณ ค่าออกแบบตกแต่งภายในสามารถคิดได้หลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ นอกจากวิธีการคิดค่าออกแบบแล้ว ยังควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น ประสบการณ์และผลงานของนักออกแบบ ขอบเขตบริการที่ครอบคลุม ระยะเวลาในการทำงาน และความเชี่ยวชาญในสไตล์การออกแบบที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้บริการที่คุ้มค่าและตรงตามความต้องการ
หากคุณกำลังมองหาบริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ให้ Studio Perception เป็นผู้ดูแลคุณ เพราะเรามีความเข้าใจการออกแบบอย่างถ่องแท้ ทำงานอย่างมืออาชีพ ช่วยให้ขั้นตอนต่าง ๆ มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง หากสนใจการออกแบบและตกแต่งภายใน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือโทร 098 098 5488
